ทีมงาน วอส. ม.อ.ปัตตานี พร้อมนักศึกษา คว้ารางวัลระดับประเทศ 1 ใน 4 Best Practice จากกระทรวง อว. พร้อมจัดบูธนำเสนอผลงานและถอดบทเรียนโครงการยุวชนอาสาสะพานไม้บานา

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี สร้างชื่อเสียงในเวทีระดับประเทศ เมื่อคณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษานำผลงานเข้าร่วมจัดบูธแสดงผลงานและขึ้นรับรางวัล 1 ใน 4 Best Practice จากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ยุวชนอาสาสู่แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) และการรับฟังแนวทางการจัดทำข้อเสนอโครงการยุวชนอาสา ประจำปีงบประมาณ 2569 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ณ ห้อง Jubilee Ballroom ชั้น 11 โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ โฮเต็ล ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร



โครงการยุวชนอาสา โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน ครอบคลุมโครงการจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศรวมกว่า 500 โครงการ ซึ่งในปี 2568 มีสถาบันอุดมศึกษาส่งผลงานเข้าประกวด 19 โครงการ ซึ่งคณะกรรมการได้คัดเลือกเหลือเพียง 8 โครงการ ก่อนที่คณะกรรมการจะลงพื้นที่ประเมินจริง และพิจารณาตัดสินมอบรางวัล แบ่งเป็น 4 รางวัลแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) และ 4 รางวัลแนวปฏิบัติที่ดีมาก (Good Practice) โดย 1 ใน 4 ผลงานที่ได้รับรางวัลแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ ได้แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ภายใต้ผลงาน “พลังนักศึกษาจิตอาสาสู่การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แหลมลังกาสุกะ จังหวัดปัตตานี”

โครงการ “พลังนักศึกษาจิตอาสาสู่การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แหลมลังกาสุกะ จังหวัดปัตตานี” ดำเนินการโดยคณะวิทยาการอิสลาม นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รุสลี นุห์ รองคณบดีฝ่ายยุทธศาสตร์และพันธกิจเพื่อสังคม ในฐานะหัวหน้าโครงการ เเละทีมงาน ร่วมกับนักศึกษาหลายสาขาภายใต้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เพื่อบูรณาการความรู้จาก 5 รายวิชา 3 คณะ ได้แก่ รายวิชาผู้ประกอบการเบื้องต้น และรายวิชาผู้ประกอบการเพื่อสังคม (คณะวิทยาการอิสลาม) รายวิชาการออกแบบกราฟฟิก (คณะวิทยาการสื่อสาร) และรายวิชาภาษามลายู พร้อมทั้งรายวิชาภาษาอาหรับเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยว (คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ร่วมกับชุมชน ออกแบบแผนธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และสร้างรายได้ให้กับวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวสะพานไม้บานา ภายในระยะเวลาดำเนินการระหว่างเดือนกรกฎาคม – พฤศจิกายน 2567 กิจกรรมสำคัญประกอบด้วยการสำรวจพื้นที่และความต้องการของชุมชน การจัด Workshop หลักสูตร Design Thinking เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ การพัฒนาแผนธุรกิจด้วย Lean Canvas การนำเสนอแผนแก่ผู้ทรงคุณวุฒิและชุมชน การผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ (VDO, QR Code) การถอดบทเรียนและปรับปรุงแผนธุรกิจ รวมถึงการประเมินความพึงพอใจและขยายผลสู่การปฏิบัติจริง ซึ่งผลลัพธ์ของโครงการทำให้ชุมชนมีแผนธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แหลมลังกาสุกะ 4 ทริป และวีดีโอโปรโมทการท่องเที่ยว 1 คลิป สามารถนำไปใช้ได้จริงเพื่อสร้างรายได้และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันการท่องเที่ยวของชุมชน



สำหรับในช่วงพิธีเปิดกิจกรรมครั้งนี้เริ่มด้วยการกล่าวรายงานโดย นางสาวกีรติ แก้วสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนและพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และตามด้วยการเปิดกิจกรรมโดย ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งได้เน้นย้ำบทบาทของโครงการยุวชนอาสาในฐานะกลไกสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับสังคม
กิจกรรมต่อมาคือการเสวนาในช่วงแรก ภายใต้หัวข้อ “ยุวชนอาสาสู่การยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานที่มีคุณภาพ” โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บดินทร์ แวลาเตะ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เข้าร่วมแลกเปลี่ยนในฐานะตัวแทนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมเวทีกับผู้บริหารและอาจารย์จากสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ อาทิ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธัญศิภรณ์ ณ น่าน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาจารย์ชาญวุฒิ ทองแกมแก้ว จากมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ และผู้ช่วยศาสตราจารย์เกรียงไกร สัจจะหฤทัย จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยมี ดร.นภาพร อาร์มสตรอง คณะกรรมการบริหารโครงการยุวชนอาสา เป็นผู้ดำเนินการเสวนา
“การสร้างสะพานต้องใช้ไม้หลายท่อน เช่นเดียวกันกับโครงการสะพานไม้บานา ต้องใช้องค์ประกอบอย่างน้อย 3 อย่าง: การบูรณาการของศาสตร์ กระบวนการ Design Thinking การมีส่วนร่วมกับชุมชน มหาวิทยาลัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสุดท้ายส่งผลกระทบต่อ นักศึกษา ชุมชน และสังคม (Triple Impact)” — ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บดินทร์ แวลาเตะ
ในช่วงที่สองของการแลกเปลี่ยน ได้จัดเวทีเสวนาในหัวข้อ “ยุวชนอาสาใครๆ ก็ทำได้” โดยคัดเลือกตัวแทนจาก 4 สถาบันการศึกษาที่ได้รับรางวัล Best Practice ขึ้นเวทีนำเสนอผลงานและถอดบทเรียนโครงการที่ได้รับรางวัล ซึ่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีในฐานะมหาวิทยาลัยที่ได้รับรางวัลแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) มีนายมาสะอุดี ปะดอ นักศึกษาสาขาวิชานวัตกรรมธุรกิจอิสลาม คณะวิทยาการอิสลาม และ นางสาวชนากานต์ มะตัง นักศึกษาสาขาวิชาภาษาอาหรับเพื่อธุรกิจ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ขึ้นเวทีนำเสนอและถอดบทเรียนจากผลงาน “พลังนักศึกษาจิตอาสาสู่การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แหลมลังกาสุกะ”

“การเรียนในห้องเรียนทำให้เราได้เรียนรู้ทฤษฎีและองค์ความรู้ต่างๆ และการได้ลงมือปฏิบัติจริงก็ช่วยให้เราเข้าใจองค์ความรู้นั้นอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งผมต้องขอขอบคุณโครงการยุวอาสาที่ได้เปิดโอกาสให้ผมได้นำวิชามาประยุกต์ใช้ครับ” — นายมาสะอุดี ปะดอ

“จากองค์ความรู้ในห้องเรียน สู่การบูรณาการ ต่อยอดในโลกของความเป็นจริง เราไม่สามารถมีเพียงทักษะเดียวเพื่อใช้ชีวิตในปัจจุบันได้ แต่การมีหลายทักษะจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นในโลกที่ซับซ้อน” — นางสาวชนากานต์ มะตัง
การเสวนาดังกล่าวดำเนินการโดยรอง ศาสตราจารย์ ดร.ประวิทย์ ฤทธิบูลย์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ และอาจารย์ภาณุรัชต์ บุญส่ง ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยพลังและแรงบันดาลใจจากเยาวชนคนรุ่นใหม่
ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงเป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัย หากยังตอกย้ำว่าศักยภาพของเยาวชนในพื้นที่ชายแดนใต้สามารถก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาสังคมได้อย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บดินทร์ แวลาเตะ รวมถึงคณาจารย์ เเละนักศึกษา ยังได้ร่วมรับฟังนโยบายและทิศทางการดำเนินงานโครงการยุวชนอาสาในอนาคตจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การขับเคลื่อนโครงการในปีงบประมาณ 2569



นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ทิศทางและการดำเนินงานโครงการยุวชนอาสาในภาพรวมของสถาบันอุดมศึกษา” โดยรองศาสตราจารย์ยุทธนา ฉัพพรรณรัตน์ และนางสาวนิสากร จงเจริญธรรม รวมถึงการนำเสนอแนวทางการจัดทำข้อเสนอโครงการยุวชนอาสา ปีงบประมาณ 2569 เพื่อให้การทำงานอาสาสมัครเชิงระบบสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืนต่อไป
“การอาสาอุทิศตนเพื่อคนอื่นไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่าย ต้องเสียสละ แรงรู้ แรงกาย แรงใจ เพื่อยังประโยชน์ต่อผู้อื่น ขอบคุณอัลลอฮ ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณทีมงาน ขอบคุณนักศึกษา ขอบคุณ สป.อว. รวมทั้งชาวบ้านทีมสะพานไม้บานา ที่ร่วมกันจุดประกาย ไอเดียทำโครงการพลังยุวชนอาสาขับเคลื่อนการท่องเที่ยวสะพานไม้บานา เพื่อต่อยอดสู่ไอเดียการขับเคลื่อนและพัฒนาโครงการต่อยอดอีกในอนาคต” — ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รุสลี นุห์
เรามีการใช้คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งหรือเพื่อการทำงานของเว็บไซต์และเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสบการณ์และเพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน คุณสามารถศึกษารายละเอียดนโยบายแนวปฎิบัติการใช้คุกกี้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ที่ Cookies Policy